จากการประชุมเรื่อง”บทบาทของคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนและพัฒนามหาวิทยาลัยเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ”และ”การชี้แจงเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร 2565 และคลังหน่วยกิต” จัดโดยที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทปอ.มรภ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน นายกสภามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยในสังคมไทยถือว่าเป็นองค์กรทางวิชาการระดับสูงของสังคม ทำหน้าที่สร้างคน สร้างความรู้ และสร้างนวัตกรรม เพื่อสู่ความเป็นเลิศ อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมความรู้ของสังคมและเป็นชุมชนทางวิชาการ ที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาสังคม ซึ่งการจะพัฒนาระบบบริหารมหาวิทยาลัยให้เกิดประสิทธิภาพและบรรลุความเป็นเลิศได้เร็วต้องกระจายอำนาจไปที่สภามหาวิทยาลัย เพื่อลดขั้นตอนและเพิ่มความคล่องตัว ดังนั้นสภามหาวิทยาลัยจึงเป็นองค์กรที่มีความสำคัญมากในการขับเคลื่อนและพัฒนามหาวิทยาลัย เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ

ศ.ดร.วิจิตร กล่าวต่อว่า เมื่อสภามหาวิทยาลัยเป็นองค์กรสูงสุดที่ควบคุมดูแล การบริหารจัดการให้เกิดการปฏิบัติตามนโยบายและพันธกิจของมหาวิทยาลัยอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล จึงจำเป็นต้องมีการปฏิรูปสภาฯให้มีความเป็นอิสระ คล่องตัว มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีประสิทธิภาพและมีความสัมพันธ์ในการทำงานกับอธิการบดีและผู้บริหารระดับสูงดียิ่งขึ้น ส่วนกรรมการสภาฯต้องเป็นผู้ที่เข้าใจและเข้าถึงอุดมการณ์ของมหาวิทยาลัย มีจรรยาบรรณ และสามารถอุทิศตนให้กับงานในหน้าที่ มีการประชุมสม่ำเสมอ ให้ความสำคัญกับเรื่องเชิงนโยบายนวัตกรรม ความเป็นเลิศทางวิชาการ และการบริหารจัดการที่ดี

ศ.ดร.กิตติชัย วัฒนานิกร ประธานคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา( กมอ.) กล่าวชี้แจงเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร 2565 และคลังหน่วยกิต ว่า พ.ร.บ.การอุดมศึกษา 2562 ระบุให้มีการกำหนดมาตรฐานการอุดมศึกษาและการติดตามตรวจสอบสถาบันอุดมศึกษาใหม่ ทำให้ประกาศต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานการอุดมศึกษาเดิมต้องถูกยกเลิกหมด และต้องมาเริ่มใหม่ อีกทั้งพ.ร.บ. การอุดมศึกษา ยังกำหนดให้ กมอ.ออกประกาศต่างๆที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานการอุดมศึกษา ซึ่งประกาศบางเรื่องก็จะคล้ายๆเดิม แต่ก็มีหลายเรื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมมากๆหรือเป็นเรื่องใหม่ เช่น ประกาศ กมอ. เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอนุปริญญา พ.ศ. 2565,เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี 2565,เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา 2565,เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการเทียบโอนหน่วยกิตและผลการศึกษาในระดับอุดมศึกษา 2565,เรื่องแนวทางการดำเนินงานคลังหน่วยกิตในระดับอุดมศึกษา 2565 ,เรื่องรายละเอียดผลลัพธ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา2565 และเรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการแต่งตั้งหรือมอบหมายผู้ตรวจสอบ และการตรวจสอบการดำเนินการจัดการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ เป็นต้น

ศ.ดร.กิตติชัย กล่าวต่อว่า การออกกฎหมายด้านมาตรฐานการอุดมศึกษา โดยเฉพาะเรื่องคลังหน่วยกิต มีหลักคิดที่เราอยากเห็นเรื่องการศึกษาตลอดชีวิตเป็นจริงเป็นจัง เนื่องจากมีความสำคัญมากในโลกปัจจุบัน เพราะความรู้ ทักษะ เทคโนโลยี รวมถึงวิถีชีวิตของคนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การศึกษาตลอดชีวิตไม่ว่าจะมาจากการศึกษาในระบบ นอกระบบ หรือตามอัธยาศัย เป็นสิ่งมีคุณค่าของแต่ละบุคคล จึงควรมีธนาคารหรือคลังหน่วยกิต เพื่อรับฝากผลลัพธ์การเรียนรู้เหล่านั้น

ซึ่งผู้ฝากสามารถนำออกมาใช้ประโยชน์เมื่อต้องการ แต่เนื่องจากผลลัพธ์การเรียนรู้อาจได้มาจากหลายแหล่ง ต่างเวลา และมีหลายรูปแบบ จึงจำเป็นต้องมีระบบเทียบโอนมาเป็นหน่วยกิตที่มีมาตรฐานเดียวกัน ก่อนการนำไปฝากในคลังฯและก่อนการนำไปใช้จริง

ด้านผศ.ดร.ลินดา เกณฑ์มา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา(มบส.) ในฐานะประธาน ทปอ.มรภ. กล่าวว่า มบส.ให้ความสำคัญการจัดการศึกษาตลอดชีวิต เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ขณะนี้ได้ตั้งคณะทำงานมาดูและผลักดันเรื่องคลังหน่วยกิตอย่างจริงจัง รวมทั้งเดินหน้าเรื่องการจัดการศึกษาที่แตกต่างจากมาตรฐานการอุดมศึกษา (Higher Education Sandbox) อย่างเต็มที่ เพื่อให้จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาใหม่ทันต่อบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วย

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ schmadeke-inc.com